ข้อมูลจริง
ฮั่ว หยวนเจี๋ย (จีน: 霍元甲; พินอิน: Huò Yuánjiǎ) [Cantonese: Fok Yuen Gap] (c.1868-1910[1]) คือนักสู้ชาวจีนและผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมชิงอู่ โรงเรียนสอนศิลปะการป้องกันตัวในเซี่ยงไฮ้ เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษจากการต่อสู้กับชาวต่างชาติในช่วงที่ ประเทศจีนถูกคุกคามโดยชาวต่างชาติ ทำให้เรื่องราวของเขายากต่อการแยกแยะจริงเท็จ
ฮั่ว หยวนเจี๋ยเกิดเมื่อ พ.ศ. 2411 ในหมู่บ้านเซียงนาน ในมณฑลเทียนจิน เป็นลูกคนที่สี่จากสิบคนของฮั่ว เอียนตี้ ครอบครัวสกุลฮั่วมีรายได้หลักมาจากเกษรกรรม แต่ฮั่ว เทียนตี้เองก็ประกอบกิจการคุ้มกันภัยบนเส้นทางไปแมนจูเรียเช่น กัน ถึงแม้ว่าจะเกิดป่วยในตระกูลผู้ฝึกกังฟู แต่เนื่องจากว่าหยวนเจี๋ยมีอาการเจ็บโดยกำเนิด บิดาของเขาจึงส่งเสริมให้เขาศึกษาวิชาการมากกว่าการเป็นนักสู้
ฮั่ว เอียนตี้จ้างเชน เซ็งโฮจากญี่ปุ่นมาสอนฮั่ว หยวนเจี๋ย โดยเขาสอนวิชากังฟูให้เป็นการตอบแทน อย่างไรก็ตาม ฮั่ว หยวนเจี๋ยขัดขืนเส้นทางที่บิดาขีดไว้ให้ด้วยการแอบดุบิดาสอนลูกศิษย์ในเวลา กลางวันและฝึกมวยกับเชนในเวลากลางคืน
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ข้อมูลจากหนัง
ภาพยนตร์ที่นำแสดงโดย หลี่เหลียนเจี๋ย (李连杰) เรื่อง Fearless นั้น ก็ไม่แน่ใจว่าทำไมถึงใช้ชื่อภาพยนตร์ว่า Fearless เพราะชื่อภาพยนตร์เรื่องนี้ที่เป็นตัวอักษรจีนสามตัวก็คือ 霍元甲 อ่านว่า ฮั่วหยวนเจี่ย ซึ่งเป็นชื่อของตัวเอกของเรื่อง Fearless นั่นเอง
สกุลฮั่ว 霍 เป็นสำนักมวยในเทียนจิน พ่อของฮั่วหยวนเจี่ยซึ่งเป็นครูมวยไม่ยอมสอนศิลปะการต่อสู้ให้เหตุผลกลใดมิอาจทราบได้ว่า เกี่ยวกับสุขภาพไม่ดีจริง หรือบิดาไม่ต้องการให้ฮั่วหยวนเจี่ยเดินเข้าสู่สนามนักสู้ เพราะรู้ว่าสังคมกำลังจะเปลี่ยนไป หรือไม่
อย่างไรก็ตามในช่วงเวลานั้น สังคมยังตัดสินอะไรหลายอย่างด้วยกำลังกันอยู่ ผู้ชนะในการประลองเป็นที่นับหน้าถือตา แม้จีนจะมีทั้งข้าราชการสาย บุ๋น และ บู๊ ให้เลือกเติบโตได้ แต่คนจำนวนมากก็ยังนิยมความรุนแรงอยู่ เป็นแบบนี้นับพันปี
และด้วยเงื่อนไขการตัดสินคุณค่าของคนในสมัยนั้น ความกลัวน่าจะบังเกิดขึ้นแก่ฮั่วหยวนเจี่ย ซึ่งบิดาไม่ยอมสอนวิชาป้องกันตัวให้เลย ด้วยความที่เป็นเด็ก ไม่เข้าใจเรื่องต่าง ๆ อีกมาก แค่มองเห็นบิดาแพ้การประลองตามกติกา แต่มิอาจเห็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของบิดา ความกลัวว่าบิดาก็อาจจะปกป้องเขาไม่ได้จากโลกอันโหดร้ายจึงอาจเกิดขึ้น ยิ่งตัวฮั่วหยวนเจี่ยเองสู้กับคนอื่นก็แพ้ ความมุมานะที่จะต้องฝึกวิชาให้แข็งแกร่งจึงค่อย ๆ เริ่มก่อตัวขึ้น
จนกระทั่ง ฝีมือกล้าแข็งขึ้น ฮั่วหยวนเจี่ยต้องการเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งในเทียนจิน เขาชนะมาตลอด ไม่เคยแพ้ เขาไม่กลัวใครมารังแกอีกแล้ว กลัวก็แต่ว่า... จะยังมีคนเก่งกว่าอยู่อีก ความรู้สึกแบบนี้ รังแต่จะทำให้มีความหลง มีความทะยาน อยากจะเอาชนะ เมื่อหาเหตุผลในการจะประมือประลองกันไม่ได้ ก็พยายามหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองหาเรื่องเขา หาความชอบธรรมให้ตัวเอง โดยไม่ไตร่ตรองก่อน คิดว่าจะแก้แค้นในศิษย์โดยไม่ไต่สวนความถูกผิดเสียก่อน ในใจคือกลัวว่าจะไม่เก่งกว่า ต้องหาเรื่องสู้กันให้ได้ แม้ไม่รู้ตัว แต่จิตใต้สำนึกคงรู้อยู่
ชนะ !!! ชนะแล้วได้อะไรนะ ฮั่วหยวนเจี่ยไม่ต้องกลัวใครอีกแล้วใช่หรือไม่ เขาเก่งที่สุดในเทียนจินแล้ว แต่ทว่า ความแค้นไม่เข้าใครออกใคร เขาจึงถูกแก้แค้นด้วยชีวิต แม้แม่คนเดียว ฮั่วหยวนเจี่ย ก็ปกป้องไม่ได้ ฮั่วหยวนเจี่ยเร่งฝึกวิชา เพราะกลัวเหลือเกินที่จะถูกทำร้าย กลัวเหลือเกินที่พ่อเขาจะปกป้องเขาไม่ได้ มาวันนี้ฮั่วหยวนเจี่ยก็ปกป้องลูกสาวคนเดียวไม่ได้เช่นกัน ทั้ง ๆ ที่คิดว่าการจะชนะทุกอย่างทำให้เขาอยู่เหนือความกลัวได้ ตอนนี้สับสนเหลือเกิน นี่เขาเรียกกรรมตามสนองใช่หรือไม่
ฮั่ว หยวนเจี่ยฆ่าพ่อคนอื่นตาย (จากการประลอง) แม่และลูกเขาก็เลยต้องตาย (จากการแก้แค้น) ครั้นคิดจะไปแก้แค้นบ้าง เขาก็ทำไม่ลง เขากลัวบาปใช่หรือไม่ อันที่จริงฮั่วหยวนเจี่ยอาจไม่ได้กลัวบาป แต่กลัวว่าการกระทำที่ไม่สง่างามนี้จะมีผลลูกโซ่อะไรต่อมาบ้าง เขาอาจถูกตามล่า อาจมีคนมาแก้แค้น สับสนเหลือเกิน ฮั่วหยวนเจี่ย จึงหนีไปให้ไกลนั้น นอกจากกลัวอดีตที่จะมาหลอกหลอนแล้ว จะเปรียบได้กับ "การออกบวช" และก็จะได้ความสงบ พอที่จะมาต่อสู้กับโลกียะที่เป็นจริงอีกครั้ง
ผมถือว่าเหมือนบรรลุธรรมระหว่างออกบวช การที่มีประสบการณ์ในอีกโลกหนึ่ง ทำให้จิตใจสงบขึ้น มองหาสุนทรีย์อื่น ๆ ที่ละเอียดกว่าการมุ่งจะเอาชนะ ซึ่งบัดนี้ ด้วยจิตที่สงบขึ้น การได้รับรู้ความจริงในมิติที่ละเอียดขึ้น ทำให้เขาเข้าใจ เข้าใจว่าทำไมบิดาถึงไม่ลงมือพิชิตฝ่ายตรงข้าม เข้าใจว่าชีวิตมีหลายมิติ เข้าใจความไม่เที่ยงของสรรพสิ่ง เข้าใจว่าการฝึกมวยที่แท้แล้วเพื่ออะไร และการเปรียบเทียบว่าใครดีกว่าใครเป็นแค่เรื่องสมมติเท่านั้น รวมถึงผลแพ้ชนะด้วย เพราะไม่รู้จึงกลัว เพราะไม่เข้าใจจึงได้กลัว ฮั่วหยวนเจี่ย รู้และเข้าใจชึวิตแล้ว เขาจึงไม่กลัวอีกต่อไป บัดนี้ฮั่วหยวนเจี่ย ผู้ "หาญกล้า" ต่อกรกับนักสู้จากหอการค้า 4 ชาติ หากแต่จิตใจสงบอย่างยิ่ง ภายในดวงตาไร้แววคิดจ้องทำลาย เขาสามารถเอาชนะ "ความรู้สึกอยากเอาชนะ" ของตนได้แล้ว
ข้อมูลจาก
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=plin&month=03-2006&date=05&group=5&gblog=6
http://th.wikipedia.org/wiki/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น